สวัสดีนะคะ วันนี้เราจะมาพูดถึงปะเก็นกันอีกเช่นเคย แต่ในวันนี้จะมาอธิบายถึงอันตรายของการใช้ปะเก็นหรือวัสดุอื่นๆที่ทำมาจากแร่ใยหินหรือที่เรียกกันว่า Asbestos กันนะครับ ซึ่งในปัจจุบัน ถึงแม้ว่าจะมีใช้วัตถุชนิดนี้ไม่มากนัก แต่ก็ถือว่ามีน้อยคนที่จะพอทราบถึงอันตรายของแร่ใยหิน จะขอมาลงรายละเอียดกันอย่างลงลึกกันเลยนะค่ะ
แร่ใยหิน (Asbestos) คืออะไร?
“แร่ใยหิน” หรือ “แอสเบสทอส” (Asbestos) เป็นกลุ่มของแร่อนินทรีย์ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ที่มีการปะปนรวมอยู่ภายในเนื้อหินซึ่งประกอบไปด้วยธาตุต่างๆ มากมาย เช่น ธาตุเหล็ก แมกนีเซียมและซิลิเกต เป็นต้น ลักษณะของมันจะเป็นเส้นใยเล็กๆ ละเอียด
ชนิดของแร่ใยหิน
แร่ใยหินที่สามารถหาพบได้ตามธรรมชาติ สามารถแบ่งออกมาได้ 2 ชนิดดังนี้ครับ
1. แอมฟิโบล แบ่งเป็นกลุ่มย่อยได้อีก 5 ชนิด ได้แก่ ครอซิโดไลท์ ทรีโมไบท์ อะโมไซท์ แอคทิโนไลท์และแอนโธฟิลไลท์
2. เซอร์เพนไทน์ แบ่งเป็นกลุ่มย่อยได้อีก 2 ชนิด ได้แก่ ไวท์ แอสเบสทอสและไครโซไทล์
คุณสมบัติของปะเก็น Asbestos ที่ทำมาจากแร่ใยหิน
ปะเก็น Asbestos ที่ทำมาจากวัสดุแร่ใยหินมีคุณสมบัติอันโดดเด่นในด้านของการทนไฟหรือทนทานต่อความร้อน ตั้งแต่ 700 – 1,000 องศาเซลเซียสขึ้นไป และไม่นำพาความร้อนและไฟฟ้า นอกจากนี้ยังทนต่อความเป็นกรด-ด่าง มีความยืดหยุ่นและแข็งเหนียว ซึ่งเป็นที่นิยมมากๆในสมัยก่อน แต่มว่าด้วยความที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ของคนทำงานจึงถูกยกเลิกการใช้งานไป
และเจ้าวัสดุแร่ใยหินนั้นสามารถที่จะนำมาปั่นให้เป็นเส้นและนำมาทอให้กลายเป็นผืนได้ และด้วยคุณสมบัติอันหลากประการดังที่กล่าวมาจึงทำให้ผู้คนนิยมนำแร่ใยหินมาใช้เป็นส่วนประกอบผลิตภัณฑ์ต่างๆ ตั้งแต่อุตสาหกรรมการผลิตวัสดุก่อสร้าง อุตสาหกรรมผลิตท่อน้ำซีเมนต์ อุตสาหกรรมกระดาษอัด อุตสาหกรรมสิ่งทอ กระเบื้องยางไวนิลสำหรับปูพื้น ผ้าคลัตช์ ผ้าเบรกและฉนวนกันความร้อน เป็นต้น
วัตถุอันตรายคืออะไร?
พระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ.2535 จัดแบ่งวัตถุอันตรายออกเป็น 4 ชนิดตามความจำเป็นแก่การควบคุม ได้แก่ วัตถุอันตรายชนิดที่ 1 วัตถุอันตรายชนิดที่ 2 วัตถุอันตรายชนิดที่ 3 และวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 ซึ่งในปัจจุบันมีหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบของหน่วยงาน ตามวัตถุประสงค์ของการนำวัตถุอันตรายไปใช้ดังนี้
1. กรมโรงงานอุตสาหกรรม รับผิดชอบวัตถุอันตรายที่นำไปใช้ในทางอุตสาหกรรม
2. กรมวิชาการเกษตร รับผิดชอบวัตถุอันตรายที่นำไปใช้ทางการเกษตร
3. กรมประมง รับผิดชอบวัตถุอันตรายที่นำไปใช้ทางการประมงและการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ
4. กรมปศุสัตว์ รับผิดชอบวัตถุอันตรายที่นำไปใช้ทางปศุสัตว์
5. สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา รับผิดชอบวัตถุอันตรายที่นำไปใช้ในบ้านเรือน หรือ ทางสาธารณสุข
6. กรมธุรกิจพลังงาน รับผิดชอบวัตถุอันตรายที่เป็นก๊าซปิโตรเลียม
ประเภทของวัตถุอันตราย
- วัตถุอันตรายชนิดที่ 1 ได้แก่วัตถุอันตรายที่การผลิต การนําเข้า การส่งออกหรือการมีไว้ในครอบครองต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนด
- วัตถุอันตรายชนิดที่ 2 ได้แก่วัตถุอันตรายที่การผลิต การนําเข้า การส่งออกหรือการมีไว้ในครอบครองต้องแจ้งให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทราบก่อนและต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนด
- วัตถุอันตรายชนิดที่ 3 ได้แก่วัตถุอันตรายที่การผลิต การนําเข้า การส่งออกหรือการมีไว้ในครอบครองต้องได้รับใบอนุญาต
- วัตถุอันตรายชนิดที่ 4 ได้แก่วัตถุอันตรายที่ห้ามมิให้ มีการผลิต การนําเข้า การส่งออก หรือการมีไว้ในครอบครอง
ซึ่งแร่ใยหิน (Asbestos) ชนิด “ไครโซไทล์” จัดว่าเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 และแร่ใยหินในกลุ่ม “แอมฟิโบล” จัดเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 โดยในประเทศไทยอนุญาตให้มีการใช้งานแร่ใยหินชนิดเดียวคือ แร่ใยหินชนิดไครโซไทล์ (Chrysotile) หรือแอสเบสตอสสีขาว
อันตรายจากการได้รับแร่ใยหินเข้าสู่ร่างการ
อย่างที่ทราบกันนะครับว่า แร่ใยหินมีคุณสมบัติที่ดีในหลายๆแง่ แต่ก็มีโทษมหันต์เช่นเดียวกัน ซึ่งในบางโอกาสเราอาจจะได้รับหรือสัมผัสกับแร่ใยหินโดยที่เราไม่รู้ตัว เราสามารถรับแร่ใยหินเข้าสู่ร่างกายได้ด้วยกันทั้งหมด 3 วิธีดังนี้ครับ
- ทางจมูกจากการสูดดม
- ทางปากจากการหายใจเข้าทางปาก
- ทางผิวหนังผ่านการสัมผัส
ซึ่งปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคจากแร่ใยหิน จะมีอยู่ด้วยกัน 3 ปัจจัยดังนี้ครับ
- ปริมาณแร่ใยหินที่เข้าสู่ปอด – หากได้รับแร่ใยหินในปริมาณที่มากในระยะเวลาอันสั้น ก็มีโอกาสเกิดโรคจากแร่ใยหินได้ง่ายมากยิ่งขึ้นครับ
- ความคงทนของเส้นใยเมื่ออยู่ในปอด – เมื่อเส้นใยของแร่ใยหินเข้าสู่ร่างกายของเรา ร่างกายของเราก็มีกลไกป้องกันภัยของร่างกาย ที่สามารถขับเอาเส้นใยบางส่วนที่เข้าสู่ร่างกายแล้วออกมาได้ แต่ก็มีเส้นใยบางจำพวก บางขนาดที่ร่างกายไม่สามารถขับออกไปได้เช่นเดียวกัน
- ขนาดของเส้นใย
- เส้นใยที่มีความยาวมากกว่า 5 ไมครอน และเส้นผ่านศูนย์กลางน้อยกว่า 3 ไมครอน และมีความทนทาน จะมีอันตรายต่อสุขภาพ เนื่องจากเส้นใยจะสะสมและคงอยู่ในเนื้อเยื่อปอด
- เส้นใยที่มีความยาวกว่า 200 ไมครอน และเส้นผ่านศูนย์กลางมากกว่า 3 ไมครอนจะไม่ไม่สามารถเข้าสู่ถุงลมปอดได้มักจะสะสมอยู่ในทางเดินหายใจส่วนบน และถูกกำจัดออกจากร่างกายโดยขับออกมากับเมือกเป็นเสมหะ
- เส้นใยที่มีความยาวน้อยกว่า 5 ไมครอน และเส้นผ่านศูนย์กลางต่ำกว่า 2 ไมครอน จะถูกกลไกของร่างกายกำจัดได้
โรคที่สามารถเกิดขึ้นหากได้รับแร่ใยหินเป็นระยะเวลานาน มีด้วยกันดังนี้ครับ
- โรคปอดอักเสบจากแอสเบสตอสหรืออีกชื่อที่เรียกว่าโรคแอสเบสโตสิส (Asbestosis) มีสาเหตุมาจากการหายใจรับเอาเส้นใยแอสเบสตอสเข้าไปสะสมภายในปอดเป็นเวลานานกว่า 5-10 ปี
- โรคมะเร็งปอด (Lung cancer) เพราะเมื่อแร่ใยหินเข้าไปยังระบบทางเดินหายใจกระทั่งเข้าไปก่อตัวทำลายเซลล์ปอด เมื่อเกิดเป็นพังผืดในระยะเวลานานนับ 10 ปี อาการดังกล่าวก็จะลุกลามพัฒนามาสู่การเป็นเซลล์มะเร็งจนได้ครับ
- โรคมะเร็งเยื่อหุ้มปอด เรียกอีกชื่อหนึ่งว่าโรคเมโสธีลิโอมา (Mesothelioma) เป็นได้ทั้งเนื้องอกหรือโรคมะเร็งชนิดหนึ่งที่มีการเกิดขึ้นในบริเวณเยื่อหุ้มปอดและเยื่อบุภายในช่องท้อง โรคดังกล่าวมักเกิดกับผู้ที่มักสัมผัสกับแอสเบสตอสชนิดครอซิโดไลท์และอะโมไซท์เป็นประจำ
วิธีการป้องกันและวัสดุทดแทนปะเก็น Asbestos หรือ แร่ใยหิน
วิธีการป้องกันการจากสัมผัสกับสารแร่ใยหินในสถานประกอบการที่ใช้แร่ใยหิน หรือช่างก่อสร้างที่มีโอกาสสัมผัสแร่ใยหินโดยตรง ต้องมีการเฝ้าระวังและป้องกันการสัมผัสแร่ใยหินอย่างเข้มงวด มีการตรวจสุขภาพประจำทุกปีเพื่อตรวจสุขภาพของปอดครับ แต่ในส่วนของผู้บริโภคอย่างเราที่จะสร้างบ้านหรือเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่อาจมีแร่ใยหินเป็นส่วนประกอบ ต้องมีมาตรการคุ้มครองผู้บริโภคอย่างชัดเจน เช่นข้อควรระวังระบุไว้อย่างชัดเจนที่ตัวผลิตภัณฑ์
วัสดุทดแทนแร่ใยหิน
โดยในปัจจุบันนี้แร่ใยหิน ไม่ค่อยเป็นที่นิยมมากนัก เพราะเนื่องจากมีวัสดุทนแทนที่ให้คุณสมบัติที่เหมือนกันหรือดีกว่า โดยไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย วัสดุทดแทนที่นำมาใช้แทน ยกตัวอย่างเช่น
- ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเซรามิก สำหรับใช้ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ต้องการการทนความร้อนสูง
- ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มโพลีเมอร์ สำหรับใช้ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ต้องการความแข็งแรงและมีความยืดหยุ่นที่สูง
ทีนี้กลับมาเรื่องปะเก็นของเรากันต่อนะครับ ในปัจจุบันนี้ปะเก็นแร่ใยหินนั้น หาซื้อหรือหาใช้งานค่อนข้างยากแล้วนะครับ หรือหากจะพอพบเจอได้บ้างก็จะมีในโรงงานที่มีอายุประมาณนึงครับ ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้ามากในขณะนี้ ทำให้ปะเก็นในปัจจุบันหรือที่เรานิยมเรียกกันว่า Non-Asbestos gasket มีคุณสมบัติที่ดีและเหนือยิ่งกว่าปะเก็นแบบแร่ใยหินเดิม (Asbestos gasket) ค่อนข้างมาก หรือ อาจจะขยับเป็นแบบ Spiral Would gasket ที่นิยทใช้กันตามมาตราฐานสากลโดยสามารถเลือกได้อย่างหลากหลายเหมาะสมกับการใช้งานของเรานะครับ
จบกันไปแล้วนะครับ สำหรับเรื่องอันตรายจากการใช้วัสดุชนิดแร่ใยหิน หวังว่าเพื่อนๆจะตระหนักถึงอันตรายของการใช้วัสดุชนิดแร่ใยหินนี้และป้องกันตัวเองกันอย่างถูกต้อง หรือหันมาเลือกใช้วัสดุจำพวก Non-asbestos กันเยอะๆนะครับ แล้วพบกันใหม่ครับ
สนใจติดต่อสอบถาม
Tel : 02-1024352
Line : @sealingrus
Facebook : ปะเก็น ซีลลิงส์